วอร์เรน บัฟเฟต ได้กล่าวไว้ว่า “การลงทุนที่ดีที่สุดคือการลงทุนในตัวเอง” และการลงทุนในตัวเองนั้นก็มีอยู่หลายรูปแบบ เช่น การอ่านหนังสือ การกินอาหาร หรือการออกกำลังกาย
และสิ่งที่ตัวของ วอร์เรน บัฟเฟต ลงทุนไปกับตัวเองมากที่สุดคือการอ่านครับ ครั้งหนึ่งตัวของปู่บัฟเฟต เคยถูกคำถามว่า อะไรคือหัวใจหลักที่นำคุณไปสู่ความสำเร็จ? ปู่บัฟเฟตจึงชี้ไปยังกองหนังสือ แล้วตอบว่า “ผมอ่านหนังสือ 500 หน้าทุกวัน นี่คือวิธีเพิ่มพูนความรู้ของผม ความรู้มันจะสะสมไปเรื่อยๆ เหมือนกับดอกเบี้ยทบต้น ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ แต่ผมมั่นใจว่าคนส่วนใหญ่คงไม่ทำหรอก”
ปู่บัฟเฟตพูดเสริมอีกว่า “ผมอ่าน แล้วก็คิดตาม ดังนั้นผมจึงอ่านให้มากขึ้น และคิดให้มากขึ้น เพื่อจะได้ตัดสินใจได้อย่างเป็นระบบมากกว่านักธุรกิจส่วนใหญ่ ซึ่งที่ผมทำไปก็เพราะ ผมชอบชีวิตในลักษณะนี้”
และนิสัยรักการอ่านแบบปู่บัฟเฟต นั้นก็ยังส่งผลในแง่ดีอีกหลายทางครับ
1. คุณจะมีโอกาสที่ร่ำรวย
Self-made millionaire อย่าง สตีฟ ซีโบลด์ ( Steve Siebold ) ผู้เขียนหนังสือ “How Rich People Think” ได้ทำการสัมภาษณ์บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกถึง 1,200 คน เพื่อสำรวจว่าพวกเขามีคุณลักษณะแบบไหนที่ตรงกันบ้าง และหนึ่งในนิสัยที่แทบทุกคนจะมีเหมือนกันก็คือ พวกเขารักการอ่านหนังสือและชอบอ่านหนังสือหลากหลายประเภท ( ตัวอย่างนี้เห็นชัดมากครับ ตัวของ Bill Gates, Jeff Bezos, Mark Zuckerberg หนังสือที่เป็น Top list ในแต่ละปีที่คนเหล่านี้แนะนำ มีตั้งแต่ วรรณกรรมเยาวชน นิยาย สุขภาพ การเมือง ไปจนถึงเศรษฐกิจ )
2. คุณจะเป็นคนฉลาด
นักจิตวิทยาที่ชื่อว่า Keith Stanovich ได้เขียนบันทึกไว้ใน U.S. National Library of Medicine National Institutes of Health ว่า ถ้าหากคำว่า #ฉลาดมากขึ้น นั้นหมายถึงการมีความรู้และมีคลังคำศัพท์ในหัวมากขึ้นล่ะก็ การอ่านก็น่าจะทำให้ผู้คนฉลาดมากขึ้นได้อย่างแน่นอน
3. คุณจะเป็นคนฉลาดทางอารมณ์
ใครชอบอ่านนิยายบ้างยกมือขึ้น…หากคุณชอบอ่านหนังสือแนวนวนิยายล่ะก็ การวิจัยทางวิทยาศาสตร์มีข่าวดีมาบอก งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Public Library of Science, The Journal of Research in Personality รวมถึงงานวิจัยอื่นๆ อีกหลายชิ้น พบว่า ผู้คนที่ชอบอ่านงานวรรณกรรมมักมีระดับความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นและมีความฉลาดทางอารมณ์มากเป็นพิเศษ
4. ความคิดของคุณจะเฉียบคม
การมีงานอดิเรกคือ “การอ่าน” จะสามารถทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคุณดีขึ้นได้ โดยเฉพาะในระยะยาว
งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน Journal of American Academy of Neurology กล่าวว่า การทำกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของความคิดอย่าง การอ่าน จะมีแนวโน้มของการเสื่อมสภาพทางความจำและความคิดน้อยกว่าผู้ที่ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือ
ที่นี้เราน่าจะพอเห็นภาพกันมากขึ้นแล้วว่าทำไมการลงทุนกับตัวเองด้วยการอ่านนั้นถึงคุ้มค่า หนังสือเป็นอะไรที่ใช้เงินในการลุงทุนต่ำ ได้ผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงน้อย แถมมูลค่าก็ไม่มีลดลงอีกต่างหาก และศัตรูเพียงอย่างเดียวที่มีก็มีแค่ปลวกครับ
แหล่งที่มาของบทความ
สาระ แนวคิด และแรงบันดาลใจ 