หากจะวัดว่าใครจนหรือรวยในด้านวัตถุนั้น การดูทรัพย์สินที่มีหรือดูตัวเลขในบัญชีคงเป็นตัววัดที่ดีที่สุดใช้มั้ยครับ แต่ความร่ำรวยที่ใช้แค่วัตถุเป็นตัววัด อาจทำให้เราเข้าใจและเห็นอะไรเพียงแค่ด้านเดียว
นิทานเซนเรื่องนี้อาจทำให้เราเข้าใจคำว่าความร่ำรวยในอีกมุมมองหนึ่งครับ
มีคุณพ่อท่านหนึ่งเป็นคนร่ำรวยมาก เขาอยากให้ลูกชายของเรานั้นรู้ว่าการเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยนั้นมีความสุขมากแค่ไหน ดังนั้นเขาจึงจะพาลูกชายไปดูคนยากจนนั้นใช้ชีวิตยังไง
พ่อพาลูกชายไปยังที่ชนบทห่างไกล เพื่อให้ลูกชายเห็นด้วยสายตาตัวเองว่าคนยากจนน่าสงสารแค่ไหน พ่อตั้งใจหาบ้านที่จนที่สุด และใช้เวลาตลอดทั้งวันที่นั่น
จนเมื่อกลับถึงเมือง พ่อรอไม่ได้ที่จะถามลูกชาย
พ่อ: ไปชนบทครั้งนี้ ลูกรู้สึกยังไงบ้าง?
ลูก: ดีมากเลยครับพ่อ
พ่อ: ชีวิตคนยากจนเป็นยังไงตอนนี้ลูกรู้แล้วใช่มั้ย ?
ลูก: ใช่ครับพ่อ
พ่อ: ไหนลูกลองบอกพ่อสิว่าได้เห็นอะไรบ้าง ?
ลูก: พวกเขาที่นั่นมีลำธารกว้างใหญ่จนมองไม่เห็นปลายสายแต่บ้านเรามีแค่ หนึ่งสระว่ายน้ำ หนึ่งสระกลางสวนดอกไม้ กลางคืนของพวกเขาที่นั่นมีท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว แต่ที่บ้านเรากลับมีเพียงแค่โคมไฟในสวน ถึงแม้บ้านเราจะมีสวนที่ใหญ่มากแต่สวนของพวกเขาสามารถขยายไปถึงขอบฟ้าได้ พ่อครับ ขอบคุณนะครับ พ่อทำให้รู้ว่าเรายากจนแค่ไหน
เพียงมุมมองที่ต่างกัน ทำให้คนร่ำรวยกลับกลายเป็น “คนร่ำรวยที่ขาดแคลน” แต่คนยากจนกลับกลายเป็น “คนขาดแคลนที่ร่ำรวย” ความร่ำรวยนั้นมีมากมายกว่าแค่ใช้สินทรัพย์เป็นตัววัดเพียงอย่างเดียว.
